ราคาน้ำมันดิบ ของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในสหรัฐฯ ร่วงหนักเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากอุปสงค์ที่หดหาย ตามการคาดการณ์ว่าสภาพเศรษฐกิจโลกจะอ่อนตัวหนัก สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานในวันจันทร์ว่า ความต้องการน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงอย่างหนัก หลังผู้คนกว่าพันล้านคนต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านเพื่อป้องกันการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานล้นตลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
โดยราคาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประจำเดือนพฤษภาคมปิดการซื้อขายในวันจันทร์ที่ ติดลบ 37.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ ติดลบ 40.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระหว่างวัน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 2.51 ดอลลาร์ หรือ 9 เปอร์เซ็นต์ มาที่ 25.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบของสัญญาเวสต์เท็กซัสประจำเดือนมิถุนายนยังคงอยู่ในระดับที่ดีกว่ามาก คือ 20.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รายงานข่าวระบุว่า นักลงทุนตัดสินใจเทขายสัญญาเดือนพฤษภาคมซึ่งหมดอายุลงในวันจันทร์ เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันดิบที่หดตัวหนัก โดยปกติ ก่อนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะหมดอายุลง ผู้ค้าต้องตัดสินใจว่าจะยังซื้อน้ำมันจริง หรือเลื่อนสถานะไปเป็นสัญญาของเดือนถัดไปแทน
กระทรวงแรงงาน เผย สถานการณ์การจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ชะลอจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในประเทศกลุ่มเสี่ยงจากการแพร่ระบาด โดยเฉพาะประเทศอิสราเอล
หลังรัฐบาลอิสราเอลขอความร่วมมือให้ไทยชะลอการจัดส่งแรงงานตามความร่วมมือ ไทย-อิสราเอล เพื่อการจัดหางาน (TIC) ออกไปก่อน ส่วนประเทศปลายทางอื่น ขึ้นอยู่กับมาตรการการอนุญาตเดินทางเข้าออกประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีประเทศระงับการเดินทางเข้าประเทศชั่วคราว ได้แก่ กาตาร์ บาห์เรน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และหากได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศได้แล้วต้องปฏิบัติตามประกาศและมาตรการของภาครัฐในประเทศนั้น ๆ ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดด้วย
“ส่วนการเดินทางไปทำงานประเทศอื่น ๆ ที่กรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง เช่น สาธารณรัฐเกาหลี ภายใต้ระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) นั้น คนหางานควรตรวจสอบข้อมูลการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในสาธารณรัฐเกาหลีก่อนเพื่อวางแผนการเดินทาง โดยหากประสงค์จะเดินทางจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตามที่ทางสาธารณรัฐเกาหลีกำหนด เช่น การกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการ 14 วัน อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่าอิสราเอล จะถือว่าเป็นตลาดแรงงานใหญ่ของไทย แต่ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบกับการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศในภาพรวม” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว
เจ้าสัวธนินท์ เผยเอง ซีพี จ่ายค่าจ้างพนักงานตามเดิม พร้อมแผนฟื้นจาก COVID-19
เจ้าสัวธนินท์ เผยแผนพลิกฟื้นวิกฤตโควิด ยันซีพีไม่เลิกจ้างแม้แต่คนเดียว ยังจ่ายเงินเดือนและรายได้เช่นเดิม เหตุต้องรักษาคนไว้เตรียมพร้อมเดินหน้าหลังวิกฤต โควิด คลี่คลาย
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวถึงการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ว่า ในสถานการณ์นี้เครือซีพีประกาศว่า ซีพีในทุกประเทศทั่วโลกจะไม่เลิกจ้างพนักงานออกแม้แต่คนเดียว และเราต้องดูแลพนักงานของซีพีให้ดีที่สุด ไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยมีมาตรการต่างๆ ออกมา เพื่อช่วยปกป้องพนักงานไม่ให้เข้าไปเผชิญความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ใช้มาตรการทำงานที่บ้าน โดยยังจ่ายเงินเดือนและรายได้เช่นเดิม
“ซีพี ให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานมาก เพราะการรักษาคนของซีพีเท่ากับบริษัทรักษาพลังของบริษัทไว้คู่กัน เพื่อเตรียมพร้อมเดินหน้าหลังวิกฤตโควิด-19 คลี่คลาย เพราะเมื่อถึงเวลานั้นประเทศต้องเดินหน้าต่อได้ทันที เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว ภาคแรงงานและกำลังคนของซีพีจะเดินหน้าได้ทันที เป็นการเตรียมพร้อมในเวลานี้ของซีพีหลังวิกฤตจบลง ซึ่งซีพีใช้แนวทางนี้จนประสบความสำเร็จมาแล้วในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดหนักที่เมืองอู่ฮั่นในจีน”นายธนินท์กล่าว
ประธานอาวุโสเครือซีพี กล่าวด้วยว่า ประเมินวิกฤตเศรษฐกิจที่เป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ขณะนี้แตกต่างกับวิกฤตเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ผ่านมาไม่เหมือนวิกฤตต้มยำกุ้ง แต่ครั้งนี้เป็นวิกฤตระดับโลกเกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักลง ผู้คนต้องกักตัวในที่อยู่อาศัย เพื่อเลี่ยงการแพร่เชื้อ
“สำหรับประเทศไทยส่งผลให้ธุรกิจสำคัญอย่างภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีผลกระทบทั้งระบบ ซึ่งประเทศไทยพึ่งพารายได้ด้านการท่องเที่ยวมหาศาล ดังนั้นในช่วงวิกฤตจากโควิด-19 ที่ยังมีอยู่นี้ จึงเสนอให้เตรียมแผนเชิงรุกด้านการท่องเที่ยวและส่งออกไว้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสะสมพลังไว้ และขอให้ภาคเอกชนและธุรกิจต่างๆ เตรียมพร้อมด้านกำลังคนและภาคแรงงานไว้ หากสามารถที่จะช่วยเหลือไม่เลิกจ้างแรงงาน ทำให้ผู้คนยังมีกำลังจับจ่ายภายในประเทศได้จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะวันนี้เมื่อมืดที่สุดก็จะสว่าง ไม่มีวันที่จะมืดไปตลอดกาล ดังนั้นเมื่อสว่างแล้วต้องเตรียมตัวทำอย่างไร เช่นเดียวกับเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้วจะเป็นโอกาสของประเทศไทยอย่างมาก เพราะหลังวิกฤตแล้วมีโอกาสแน่นอน” นายธนินท์กล่าว
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป